Vietnamese coriander 🪴 ต้นผักเเพว ผักไผ่ #ผักสวนครัว #สมุนไพรต้านมะเร็ง
#ผักไผ่
#ผักแพว
ลักษณะของผัวแพว
ต้นผักแพว จัดเป็นพืชล้มลุก มีลำต้นสูงประมาณ 30-35 เซนติเมตร ลำต้นตั้งตรง มีข้อเป็นระยะ ๆ ตามข้อมักมีรากงอกออกมา หรือลำต้นเป็นแบบทอดเลื้อยไปตามพื้นดินและมีรากงอกออกมาตามส่วนที่สัมผัสกับพื้นดิน เป็นพืชที่เจริญเติบโตได้ดีในที่ชื้นแฉะ เช่น ในบริเวณห้วย หนอง คลอง บึง หรือตามแอ่งน้ำต่าง ๆ ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ดและการใช้ลำต้นปักชำ (เมล็ดงอกยาก นิยมใช้กิ่งปักชำมากกว่า) พรรณไม้ชนิดนี้เป็นพืชล้มลุก พบได้ทั่วทุกภาคของประเทศไทย เพราะเกิดได้เองตามธรรมชาติ
ผักแพ้ว
ต้นผักแพว
ผักไผ่
สรรพคุณของผักแพว🌿
ผักแพวอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิดที่ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานโรคให้กับร่างกาย และช่วยในการชะลอวัย (ใบ)[2]
ช่วยป้องกันและต่อต้านมะเร็ง (ใบ)[2]
ช่วยป้องกันโรคหัวใจ (ใบ)[2]
ใบใช้รับประทานช่วยทำให้เจริญอาหาร (ใบ)[2]
ช่วยบำรุงประสาท (ราก)[9]
รสเผ็ดของผักแพวช่วยทำให้เลือดลมในร่างกายเดินสะดวกมากขึ้น (ใบ)[5]
ช่วยรักษาโรคหวัด (ใบ)[6]
ช่วยขับเหงื่อ (ดอก)[7][8][9]
ช่วยรักษาโรคปอด (ดอก)[7][9]
ช่วยรักษาหอบหืด (ราก)[9]
ช่วยแก้อาการไอ (ราก)[9]
ช่วยในการขับถ่าย ป้องกันและแก้อาการท้องผูก และช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ เพราะเป็นผักที่มีไฟเบอร์สูงถึง 9.7 กรัม ซึ่งจัดอยู่ในผักที่มีเส้นใยอาหารมากที่สุด 10 อันดับของผักพื้นบ้านไทย (ใบ)[4][7][8]
ผักแพวมีรสเผ็ดร้อน จึงช่วยแก้ลม ขับลมในกระเพาะอาหาร แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ (ใบ ยอดผักแพว)[2][3][6][9] ใช้เป็นยาขับลมขึ้นเบื้องบน ช่วยให้เรอระบายลมออกมาเวลาท้องขึ้น ท้องเฟ้อ (ใบ ดอก ต้นราก)[8]
รากผักแพวช่วยรักษาโรคกระเพาะอาหาร (ราก)[7] แก้กระเพาะอาหารพิการหรือกระเพาะอักเสบ (ใบ ดอก ต้นราก)[8][9]
ช่วยแก้ท้องเสีย อุจจาระพิการ (ใบ ดอก ต้นราก)[8]
ช่วยแก้อาการเจ็บท้อง (ใบ ดอก ต้นราก)[8]
ช่วยแก้อาการท้องรุ้งพุงมาน (ใบ ดอก ต้นราก)[8]
ใบผักแพวช่วยรักษาโรคพยาธิตัวจี๊ด แต่ต้องรับประทานติดต่อกัน 5-8 วัน[6]
ลำต้นผักแพวใช้เป็นยาขับปัสสาวะ (ต้น)[9]
ราก ต้น ใบ และดอก นำมาปรุงเป็นยาได้ ใช้รักษาริดสีดวงทวาร (ใบ ดอก ต้น ราก)[8]
ช่วยรักษาโรคตับแข็ง (ใบ)[6]
ช่วยลดอาการอักเสบ (ใบ)[2]
ใบผักแพวใช้แก้ตุ่มคัน ผดผื่นคันจากเชื้อรา เป็นกลากเกลื้อน[6] ด้วยการใช้ใบหรือทั้งต้นนำมาคั้นหรือตำผสมกับเหล้าขาว แล้วใช้เป็นยาทา (ใบ ทั้งต้น)[7]
ช่วยแก้อาการปวดเมื่อยตามร่างกาย (ราก)[9]
ช่วยรักษาอาการปวดข้อ ปวดกระดูก (ราก)[7][9]
ช่วยแก้เส้นประสาทพิการ แก้เหน็บชาตามปลายนิ้วมือ ปลายเท้า และอาการมือสั่น (ใบ ดอก ต้นราก)[8]
ใช้ปรุงเป็นยาบำรุงเลือดลมของสตรี (ใบ ดอก ต้นราก)[8]
ข้อควรรู้ ! : ผักแพวหลัก ๆ แล้วจะมีอยู่สองชนิดที่ต่างกันแค่สีต้น คือ ผักแพวแดงและผักแพวขาว เป็นสมุนไพรคู่แฝดที่นำมาประกอบเป็นจุลพิกัดหรือใช้คู่กันเป็นยาสมุนไพรจะมีฤทธิ์ยาแรงขึ้น และมีประสิทธิภาพในการรักษามากขึ้นด้วย[8]
ประโยชน์ของผักแพว🌸
รสเผ็ดของผักแพวช่วยเพิ่มการเผาผลาญไขมันในเลือด เหมาะเป็นผักสมุนไพรลดความอ้วนได้โดยไม่ขาดสารอาหาร เพราะอุดมไปด้วยเส้นใยและวิตามิน แต่ต้องรับประทานในปริมาณที่มากพอหรือวันละไม่น้อยกว่า 3 ขีด[8]
ผักแพวมีวิตามินเอสูง จึงช่วยบำรุงและรักษาสายตาได้เป็นอย่างดี โดยมีวิตามินเอสูงถึง 8112 หน่วยสากล[1][3] ในขณะที่อีกข้อมูลระบุว่ามีมากถึง 13750 มิลลิกรัม[5]
ผักแพวเป็นผักที่ติดอันดับ 8 ของผักที่มีวิตามินซีสูงสุด โดยมีวิตามินซี 115 มิลลิกรัม ต่อน้ำหนัก 100 กรัม[4]
ผักแพวมีแคลเซียมสูงถึง 390 มิลลิกรัม ต่อ 100 กรัม จึงช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรงได้เป็นอย่างดี[4]
ผักแพวมีธาตุเหล็กสูงสุดติด 1 ใน 5 อันดับของผักที่มีธาตุเหล็กสูง[4]
ยอดอ่อนและใบอ่อนใช้ประกอบอาหาร ใช้รับประทานเป็นผักสด หรือใช้แกล้มกับอาหารที่มีรสจัด ใช้เป็นเครื่องเคียงของอาหารอีสาน อาหารเหนือ อาหารเวียดนาม หรือนำมาหั่นเป็นฝอย ใช้คลุกเป็นเครื่องปรุงสดประกอบอาหารประเภทลาบ ลู่ ตำซั่ว ก้อยกุ้งสด ข้าวยำ แกงส้ม เป็นต้น[2]
ใบผักแพวนำมาใช้แกงประเภทปลา เพื่อช่วยดับกลิ่นของเนื้อสัตว์หรือกลิ่นคาวปลาได้[2]